ประเภทของโลโก้ 7 ประเภท ในการออกแบบ

7 ประเภทการออกแบบโลโก้

ประเภทของโลโก้ เราแบ่งออกเป็น 7 ประเภท ซึ่งบางประเภทจะมีลักษณะใกล้เคียงกัน และบางประเภทก็มีลักษณะที่แตกต่างกันไปเลย หากคุณกำลังคิดที่จะทำโลโก้สำหรับแบรนด์ของคุณอยู่แล้วล่ะก็ คำแนะนำด้านล่างนี้จะทำให้คุณได้ไอเดียในการสร้างโลโก้แน่นอน

สารบัญหัวข้อโลโก้ทั้ง 7 ประเภท

1) โมโนแกรมโลโก้

โมโนแกรมโลโก้ หรือ โลโก้ที่เป็นข้อความตัวอักษรทั้งหมด (lettermarks) จะมาจากชื่อย่อของแบรนด์ โดยอาจจะตกแต่งข้อความให้มีเอกลักษณ์ ด้วยลวดลาย ใส่ลูกเล่นในตัวอักษรบางตัว หรือ ใส่สีสันที่ตัวอักษร มีความเรียบง่ายและเป็นชื่อสั้นๆที่จดจำง่าย

  • CNN (Cable News Network)
  • BMW (Bayerische Motoren Werke GmbH)
  • CK (Calvin Klein)
  • KFC (Kentucky Fried Chicken)
  • DHL(Dalsey Hillblom Lynn)
  • H&M (Hennes & Mauritz)
  • NASA (National Aeronautics and Space Administration)

2) เวิร์ดมาร์คโลโก้

จะมีความคล้ายกับโมโนแกรมโลโก้ แต่จะเป็นโลโก้ที่เป็นข้อความอ่านออกเสียงได้ โดยเน้นชื่อแบรนด์นั้นตรงๆ ซึ่งส่วนใหญ่โลโก้ประเภทนี้จะอ่านง่ายและเป็นโลโก้ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองค่อนข้างชัดเจน เช่น

  • Google
  • Toyota
  • Coacola
  • Subway
  • FedEx
  • Linked in
ประเภทของโลโก้

3) พิคทอเรียลโลโก้

Pictorial marks

พิคทอเรียล เป็นโลโก้ที่เป็นรูปภาพ มีชื่อเรียกอย่างอย่างว่า “logo symbols” ก็คือโลโก้ที่เป็นรูปสัญลักษณ์ ซึ่งเพียงแค่เราเห็นรูปนั้นก็สามารถรู้ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องมีข้อความกำกับ

หากแบรนด์ไหนใช้ ประเภทของโลโก้ รูปภาพช่วงแรกๆก็อาจจะมีปัญหาในการจดจำของลูกค้าเพราะยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่เมื่อแบรนด์แข็งแรงแล้วจะเป็นสิ่งที่ง่ายในการจดจำแน่นอน

ใครที่อยากมี Logo และมี Idea อยู่
ลองให้ผู้เชี่ยวชาญในเว็บ fastwork ออกแบบโลโก้ ให้เป็นภาพจริงกันดูค่ะ

4) แอบสแตรคโลโก้

แอบสแตรคโลโก้ เป็นการสร้างรูปโลโก้โดยนำรูปทรงเลขาคณิต เช่น รูปวงกลม สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ฯ ผสมผสานกันจนออกมาเป็นรูปโลโก้ ซึ่งจะเป็นในเชิงรูปที่เป็นนามธรรม แทนที่เป็นรูปสัตว์หรือรูปผลไม้ อาจจะเป็นรูปลักษณะผิดธรรมชาติที่เราไม่เคยเห็นก็ได้

ซึ่งรูปที่ออกมาไม่ได้เน้นการสื่อความหมายที่ชัดเจนของรูปสักเท่าไรว่าเป็นรูปอะไร แต่อาจจะใช้สีหรือรูปลักษณ์ของโลโก้สื่อความหมายแทน ตัวอย่างโลโก้ประเภทนี้ เช่น

  • Olympic Rings
  • Mitsubishi
  • BP
  • Airbnb
  • Pepsi
  • NBC
Abstract logo marks

5) มาสคอตโลโก้

มาสคอตโลโก้ ส่วนใหญ่มักจะเป็นภาพประกอบหรือตัวการ์ตูนที่เป็นตัวแทนของแบรนด์นั้น เพิ่มสีสัน ความสนุก รู้สึกเป็นมิตร และเพิ่มความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เช่น

  • รูปหน้าลุงมันฝรั่ง Pringles
  • พี่เสือสุดเท่ห์ Cheetos
  • ตัวตลกชุดเหลืองผมแดงอย่าง Ronald McDonald
  • เหล่าบรรดาลูกอมช็อคโกแลตสุดป่วน M&M
  • มนุษย์ยางสีขาว Michelin
  • ของไทยก็จะมีก็อตซิลล่าชื่อ ​Godgi

รู้หรือไม่?

การแจกหมวกปักโลโก้เพื่อให้ลูกค้านำไปใช้ประโยชน์ เป็นการโฆษณาแบรนด์อีกช่องทางหนึ่ง

สนใจปักหมวกดูข้อมูลที่ปุ่มด้านล่างได้เลยค่ะ

หมวกปักโลโก้

6) คอมบิเนชั่นโลโก้

โลโก้ประเภท คอมบิเนชั่น เป็นการผสมประเภทของโลโก้ต่างๆที่ได้กล่าวไว้ด้านบน ไม่ว่าจะนำข้อความมาวางข้างๆรูปภาพ หรือข้อความมาทับซ้อนกับรูปภาพก็ได้ ผสมรวมกันจนกลายเป็นโกโก้ครั้นช์(วัยรุ่นชอบพูดคำนี้กัน) มาดูตัวอย่างกัน

combination mark
  • โลโก้ฟาสต์ฟู๊ด เช่น Burger King
  • สายของกินแนวพิซซ่าจะเป็น Domino’s Pizz
  • ผลิตภัณฑ์สินค้าเครื่องใช้ภายในบ้านต้อง Unilever
  • เครื่องแต่งกายสายกีฬา Puma
  • โดนัทและกาแฟอย่าง Dunkin’ Donuts
  • โลโก้ของนาฬิกา Rolex

เครื่องหมายโลโก้ผสมนี้สร้างความหลากหลายในการสร้างโลโก้ได้ดี และในอนาคตเราอาจจะใช้แค่สัญลักษณ์ที่ไม่มีข้อความอย่างเดียวก็ยังได้ อีกทั้งยังจดเครื่องหมายการค้าได้ง่ายกว่ารูปหรือข้อความอย่างเดียวสะอีก

7) เอมเบลมโลโก้

เอมเบลมโลโก้ ความหมายค่อนข้างตรงตัวคือ โลโก้ที่เป็นตราสัญลักษณ์ ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึง ตราโรงเรียน โลโก้ราชการ ที่เป็นรูปโล่ โลโก้ที่อยู่ในกรอบวงกลม หรือสี่เหลี่ยม ประมาณตัวอย่างด้านล่างนี้

  • ร้านกาแฟสุดฮิต Starbucks
  • บริษัทผลิตหนังผลิตสื่อรายใหญ่ Warner bros
  • โลโก้รถหรูที่หลายๆคนชื่นชอบ Porsche
  • ตราโรงเรียนที่ชื่อคุ้นหูเราหน่อยก็จะเป็น Harvard
  • สาย 2 ล้อสุดเท่ห์ Harley-Davidson
ประเภทของโลโก้

ส่วนใหญ่โลโก้ประเภทนี้บ้างก็มีรายละเอียดเล็กๆในรูปโลโก้เยอะ บางทีจะเป็นปัญหาเวลานำมาทำงาน ปักหมวก หรือ ปักเสื้อ เพราะจะปักได้ยาก ปักออกมาแล้วไม่สวย บางกรณีก็อาจจะต้องตัดรายละเอียดนั้นๆออกไป หรือย้ายไปทำเป็นงานสกรีนแทน